A comprehensive guide to manufacturers, distributors, and suppliers providing machinery, industrial equipment and automation system in Thailand.

ARTICLES & ADVERTORIALS

    

5 จุดเด่น ในการใช้ Generative AI ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์





บทบาทของ AI ที่เข้ามามีส่วนในหลากหลายอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการออกแบบและการจำลองต่าง ๆ เช่น การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ โดยที่ Electrix AI นั้นทำหน้าที่เป็น AI Copilot ที่ทำงานเคียงข้างไปกับนักออกแบบในรูปแบบของ Chat Bot ด้วยการใส่คำสั่งอย่างง่าย Generative AI ก็จะสามารถตอบสนองต่อคำสั่งเสียงหรือข้อความ ตรวจสอบการออกแบบ แก้ไขความผิดพลาด และปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้ได้

5 จุดเด่น ในการใช้ Generative AI ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์


การใช้งานคำสั่งเสียง AI Copilot สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากลดระยะเวลาในการพิมพ์และกระบวนการที่เกี่ยวข้องได้มาก ทั้งยังสามารถตอบสนองได้แทบจะในทันทีอีกด้วย


5 จุดเด่นการใช้งาน Generative AI ในการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้

1. สร้างรายชื่อวัสดุได้อย่างรวดเร็ว
แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ประกอบไปด้วยวัสดุหลากหลายชนิด ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างและหลากหลาย การสร้างรายชื่อของวัสดุจึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ใช้เวลาไม่น้อย ตัวอย่าง การคลิกก็อาจต้องคลิก 10 – 20 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความฉลาดของโปรแกรมที่ออกแบบไว้ ในขณะที่ Electrix AI นั้นสามารถใส่คำสั่ง ‘Create a material list’ ก็จะได้รายชื่อทันที สร้างรายชื่อได้เร็วกว่าเดิมถึง 92% หากเทียบกับโปรแกรมทั่วไปในตลาด

2. จัดการกับ Macro ได้ผ่านคำสั่งเสียง
AI Copilot สามารถกำหนดจุด Macro ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ด้วยการใช้คำสั่ง ‘Place the macros CPU, PLC-DA, PLC-DE, PLC Potentials on a new page’ ซึ่งการวาง Macro 4 ตำแหน่งนี้ใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น หากเป็นการทำงานแบบเดิมต้องใช้เวลาถึง 5 นาที แสดงให้เห็นว่า AI ทำงานนี้ได้เร็วขึ้นถึง 95%

3. การสร้างวัตถุในโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
หนึ่งในทีเด็ดของ Copilot คือ ความสามารถในการทำซ้ำชิ้นส่วนอย่างง่ายดายและรวดเร็ว เช่น หากต้องการชิ้นส่วนในวงจร 12 ชิ้น ใช้คำสั่ง ‘Find component XY and place it 12 times in the schematic.’ ชิ้นส่วนที่ต้องการจะถูกค้นหาและแสดงผล หากมีผลลัพธ์หลายชิ้นสามารถกดเลือกและกดปุ่ม Generate เพื่อวางชิ้นส่วนดังกล่าว 12 ครั้งในระบบ

4. ตรวจหาความผิดพลาด
ขั้นตอนการตรวจสอบจะดำเนินการโดย ซอฟต์แวร์ มีหน้าที่สร้างรายชื่อของความผิดปกติขึ้นมาด้วยคำสั่งง่าย ๆ อย่าง ‘Find the errors in this project’ ตัว AI Copilot จะทำหน้าที่วิเคราะห์ทั้ง Schematic และระบุปัญหา เช่น มี Assignment บางตัวหายไป การเชื่อมต่อตรงไหนถูกเปิดไว้อยู่ ไปจนถึงส่วนประกอบหลักที่ยังไม่ได้เชื่อมต่อกับส่วนประกอบรอง เป็นต้น

5. ตอบคำถามเชิงเทคนิค
ความเชี่ยวชาญในเรื่องของเทคนิคนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก Electrix AI มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเฉพาะเจาะจง การเลือกวัสดุ ไปจนถึงเรื่องของการเดินสาย Wire Cross-Section โดยการคลิกไปยังสายใน Schematic แล้วใช้คำสั่งตามที่ต้องการ


Generative AI ช่วยลดช่องว่างและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้หน้าใหม่

ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ Generative AI ในการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์อาจไม่คุ้นเคยกับการทำงานของโปรแกรม AI Copilot สามารถใช้เพียงคำสั่งพื้นฐาน เช่น ‘How can I turn the snap on and off?’

สำหรับผู้เชี่ยวชาญ AI Copilot จะช่วยใส่คำสั่งได้หลากหลายคำสั่งทำให้งานเสร็จเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงคำสั่งที่มีความซับซ้อนก็สามารถทำให้สำเร็จได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


ดังนั้น AI Copilot จึงเข้ามาช่วยให้นักออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ใช้ทั่วไป หรือผู้ใช้หน้าใหม่ ทำงานได้ง่ายขึ้น และประหยัดเวลาลงได้กว่า 90% ซึ่งระยะเวลาที่ลดลงนั้นเกิดขึ้นจากการลดความซับซ้อนในการทำงานลงนั่นเอง



ขอบคุณที่มาโดย : Thossathip Soonsarthorn. MM MODERN MANUFACTURING

ขอบคุณภาพโดย : GrumpyBeere from Pixabay

บทความน่าสนใจ :
  • FedEx เปิดตัวหุ่นยนต์ DexR ช่วยเสริมประสิทธิภาพงานจัดเรียงสินค้า
  • Coscientist ผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ ยกระดับการค้นคว้าและการทดลอง

    อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่