Coscientist ผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ ยกระดับการค้นคว้าและการทดลอง

ในปัจจุบัน AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นส่วนสำคัญของโลกทั้งภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน AI สามารถเรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การเรียนรู้ปฏิกริยาเคมี และกระบวนการทางห้องทดลองต่าง ๆ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ออกมาได้ในเพียงหลักนาทีเท่านั้น
นักวิจัยจาก Carnegie Mellon University ได้พัฒนาระบบ AI ที่ใช้ในการวางแผน ออกแบบ และทดสอบทางเคมี ทำหน้าที่เหมือนเป็นนักวิทยาศาสตร์ร่วม (Coscientist) ที่มีศักยภาพ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมนุษย์จึงสามารถค้นคว้าเคมีและยาต่าง ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ปฏิกริยาตอบสนองที่ซับซ้อนที่สุดของ Coscientist คือ อินทรีย์เคมี เช่น Palladium-Catalyzed Cross Coupling ซึ่งทำให้มนุษย์ผู้คิดค้นได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2010 โดย AI มีส่วนอย่างมากในกระบวนการพัฒนาตัวยาและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีโมเลกุลพื้นฐานมาจากคาร์บอน
นิตยสาร Nature นำเสนอความสามารถของ Coscientist ในการใช้ AI เพิ่มความสามารถในการทำงานและการแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ ของมนุษย์ เช่นเดียวกับการยกระดับความสามารถในการจำลองและความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ในการทดสอบ การทำงานนั้นเกิดขึ้นจาก Coscientist Software และชิ้นส่วนที่มีพื้นฐานจากซิลิคอนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ในรูปแบบของ AI ที่สามารถแปลความหมายและรูปแบบจากข้อมูลในปริมาณมหาศาลได้
Coscientist นั้นถูกติดตั้งไว้ด้วย
โมดูลซอฟต์แวร์ หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับ
สารประกอบด้านเคมี การค้นหาและอ่านคู่มือทางเทคนิคเกี่ยวกับการควบคุมอุปกรณ์ห้องแล็บที่เป็นหุ่นยนต์ การเขียน Code คอมพิวเตอร์เพื่อทดลองตามแผนและวิเคราะห์ผลลัพธ์ของข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องมีการทดสอบโมดูลซอฟต์แวร์เพื่อเป็นการยืนยันว่า Coscientist สามารถแปลงแผนเชิงทฤษฎีสำหรับการสังเคราะห์สารประกอบเคมีให้เป็น Code คอมพิวเตอร์ที่สามารถแนะนำหุ่นยนต์ในห้องทดลองให้ปฏิบัติการทำงานได้
หุ่นยนต์ สำหรับงานเคมีนั้นนิยมใช้ในห้องทดลอง ไม่ว่าจะเป็นการดูดสาร การบีบสาร การให้ความร้อน การเขย่าสาร ไปจนถึงตัวอย่างขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูงและมีการทำซ้ำ ๆ โดยปกตินักเคมีจะเป็นผู้เขียน Code คอมพิวเตอร์ในการควบคุมหุ่นยนต์เหล่านี้ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาให้ AI สามารถเขียน Code ควบคุมหุ่นยนต์ได้แล้ว
ทีมนักวิจัยที่พัฒนา Coscientist เริ่มต้นด้วยการสั่งให้หุ่นยนต์จัดการกับของเหลว (
Liquid Handler Machine) คือ หยอดของเหลวที่มีสีลงในถาดทดลอง 96 หลุม เรียงกันเป็นกริด โดยคำสั่งที่ได้รับ คือ เติมสีทุกช่องด้วยสีเดียวที่เลือก และเติมสีฟ้าในแนวทแยง เป็นต้น
การทดสอบ Liquid Handler นั้นประสบความสำเร็จ ทีมวิจัยจึงให้ Coscientist รู้จักกับชนิดของหุ่นยนต์ที่ใช้ในห้องทดลองมากขึ้น โดยสร้างพันธมิตรกับ Emerald Cloud Lab ห้องทดลองเชิงพาณิชย์ที่มี Spectrophotometer และอุปกรณ์อัตโนมัติหลากหลายชนิด ในการทดสอบครั้งสุดท้ายนั้นเป็นการทดสอบปฏิกิริยา Suzuki และ Sonogashira ซึ่งเป็นปฏิกริยาที่ใช้ในโลหะ Palladium มีประโยชน์อย่างมากในการสร้างยาใหม่ ๆ ที่ใช้ในการดูแลรักษาอาการอักเสบ หอบหืด และอาการอื่น ๆ
จากการทดสอบทำให้เห็นถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ในการเร่งความเร็วการค้นพบตัวยาหรือเคมีใหม่ ๆ ซึ่ง AI สามารถเป็นผู้ช่วยของนักวิทยาศาสตร์ได้ เพียงแค่มนุษย์แนะนำขั้นตอนก็สามารถคิดงานได้ตลอดเวลา พิจารณา และตรวจสอบผลซ้ำเพื่อยืนยันความถูกต้องและความเป็นไปได้จริงอีกด้วย
ขอบคุณที่มาโดย : Thos. MODERN MANUFACTURINGขอบคุณภาพโดย : Rawpixel.com on Freepikบทความน่าสนใจ : ตรวจสอบคุณภาพด้วย AI เซฟเวลาการผลิต ถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่