A comprehensive guide to manufacturers, distributors, and suppliers providing machinery, industrial equipment and automation system in Thailand.

NEWS

    

เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้า กดดันดัชนี MPI ม.ค. 2567 หดตัวร้อยละ 2.94

ดัชนี

สศอ.เผย ดัชนี MPI เดือนแรก ปี 2567 อยู่ที่ระดับ 99.15 หดตัวร้อยละ 2.94 จากเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวได้ช้าหลังปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการ

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคม ปี 2567 อยู่ที่ระดับ 99.15 หดตัวร้อยละ 2.94 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 59.43 จากเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวได้ช้า จากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น อีกทั้งเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ายังคงชะลอตัว ส่งผลให้อุตสาหกรรมบางส่วนชะลอการผลิต อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) เดือนมกราคม 2567 ขยายตัวร้อยละ 10.30 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งการกลับมาขยายตัวดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลทำให้ดัชนี MPI หลังจากนี้ปรับตัวดีขึ้น

ระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2567 “ส่งสัญญาณเฝ้าระวัง” โดยเริ่มส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลง โดยปัจจัยภายในประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังทั้งหมด จากแรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐมีส่วนสนับสนุนกำลังซื้อของภาคครัวเรือน สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ส่งสัญญาณเฝ้าระวัง จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ยังไม่ฟื้นตัวในระยะนี้

“อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก เช่น จีน อาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดและจะฉุดรั้งให้ปริมาณการค้าโลกขยายตัวต่ำกว่าที่คาด ปัญหาด้านดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อที่อาจกดดันให้ห่วงโซ่อุปทานโลกหยุดชะงักส่งผลให้ราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ จำเป็นต้องจับตามองปัญหาภาระหนี้สินภายในประเทศที่มีระดับสูงทั้งหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งจะกระทบอุตสาหกรรมที่พึ่งพาผลผลิตทางการเกษตร” นางวรวรรณ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนมกราคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่

เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำแร่ น้ำดื่ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.16 จากน้ำอัดลม เครื่องดื่มรสผลไม้ และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เป็นหลัก โดยความต้องการบริโภคขยายตัวหลังสภาพอากาศร้อนขึ้น รวมถึงมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า

ปุ๋ยเคมี ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 58.68 เนื่องจากราคาปุ๋ยปรับลดลงและสินค้าเกษตรราคาดี ส่งผลให้เกษตรกรมีกำลังซื้อปุ๋ยมากขึ้น รวมถึงได้แหล่งนำเข้าแม่ปุ๋ยจากหลายประเทศทำให้มีวัถตุดิบสำหรับผลิตมากขึ้น

เครื่องประดับเพชรพลอยแท้ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.00 โดยขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะคู่ค้าหลักสำคัญอย่างฮ่องกงและอังกฤษ รวมถึงฐานต่ำในปีก่อน

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนมกราคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่

ยานยนต์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9.63 จากรถบรรทุกปิคอัพ และ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก เป็นหลัก โดยชะลอตัวทั้งตลาดในประเทศตามภาวะเศรษฐกิจ สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อหลังปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงการผ่อนชำระหนี้มีปัญหาค้างชำระมากขึ้นและตลาดส่งออกจากปัญหาเรือขนส่งมีพื้นที่ไม่เพียงพอทำให้ยอดส่งออกไปตลาดเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาเหนือทำได้ไม่เต็มที่

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 6.45 จากน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เป็นหลัก จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของผู้ผลิตบางราย และส่งผลให้มีปริมาณจำหน่ายน้ำมันในประเทศลดลงด้วย

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 17.71 ตามภาวะตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวจากการหดตัวในปีก่อน แม้ว่าจะมีสัญญาณการชะลอตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์และปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯที่ยังไม่คลี่คลาย แต่ยังได้ปัจจัยบวกการเติบโตของอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปสู่ edge computing