A comprehensive guide to manufacturers, distributors, and suppliers providing machinery, industrial equipment and automation system in Thailand.

NEWS

    

“ไทยออยล์” ประกาศผลการดำเนินงาน ปี 2566 มีรายได้ 459,402 ล้านบาท

“ไทยออยล์”

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงาน ปี2566 มีรายได้จากการขายที่ 459,402 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19,443 ล้านบาท

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 4/2566 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 2,944 ล้านบาท ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับราคาน้ำมันดิบเกือบทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง สาเหตุจาก โรงกลั่นหลายแห่งที่ปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 3 กลับมาเปิดดำเนินการ ส่งผลให้อุปทานในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น

ด้านตลาดอะโรเมติกส์ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการใช้เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวและบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม (PET) ที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานด้านตลาดน้ำมันหล่อลื่นปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากอุปทาน ที่ปรับตัวลดลงจากการปิดตัวของโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานบางแห่งในต่างประเทศและมีการปิดซ่อมบำรุงของ โรงผลิตในไทยบางแห่ง

ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4/2566 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2566 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันลดลงตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ประกอบกับเศรษฐกิจจีนเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 5,178 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมปี 2566 กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายที่ 459,402 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19,443 ล้านบาท โดยกลุ่มไทยออยล์ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามหลักการ ESG (Environment, Social, and Governance) อย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการได้รับรางวัลด้านความยั่งยืน จำนวน 13 รางวัล และการได้รับคะแนนการประเมินสูงสุดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล เป็นปีที่ 8 ในอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซ และได้รับการรับรองเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยออยล์ที่จะสร้างการเติบโตและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

นายบัณฑิตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ในปี 2567 คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะกลับเข้าสู่สมดุล เนื่องจากอุปทานผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการของ โรงกลั่นใหม่ในปี 2566 และ 2567 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงกลั่นยังคงได้รับแรงหนุนจากปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปคงคลัง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และความ ไม่แน่นอนของการเปิดดำเนินการโรงกลั่นขนาดใหญ่ ในขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังอุปทานจาก โรงกลั่นใหม่มีแนวโน้มน้อยกว่าอุปสงค์ที่เติบโตขึ้น สำหรับธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากปี 2566 เล็กน้อย จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นของโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานแห่งใหม่ของกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ที่เปิดดำเนินการ ในประเทศอินเดียและจีน”

ทั้งนี้ ไทยออยล์จะติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแสวงหาโอกาสสร้างรายได้เพื่อให้มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง