จริง ๆ แล้ว Digital Twin คืออะไรกันแน่ ?

ในโลกของเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 หรือการปฏิวัติภาคการผลิตสมัยใหม่ คำว่า Digital Twin นั้น หลาย ๆ คนคงจินตนาการถึงภาพในภาพยนตร์ไซไฟ เช่น โมเดลเครื่องจักรลอยกลางอากาศที่หมุนได้ด้วยนิ้ว ข้อมูลต่าง ๆ ที่วิ่งไปมาผ่านแว่น AR หรือจอโฮโลแกรม (Hologram)

แต่ในโลกความเป็นจริง Digital Twin ไม่ได้มีหน้าตาแบบนั้นเสมอไป และไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่หรูหรา เพราะหัวใจของ
Digital Twin โดยแท้จริงแล้ว คือ เครื่องมือที่ใช้เพื่อเข้าใจ ปรับปรุง และควบคุมระบบจริง ด้วยการใช้ข้อมูล ไม่ใช่การเนรมิตฉากล้ำอนาคตขึ้นมาให้ดูสวยงามเท่านั้น
Digital Twin คืออะไรกันแน่?Digital Twin คือ การสร้างแบบจำลองเสมือน อาจเป็นวัตถุ เครื่องจักร ระบบการผลิต หรือแม้กระทั่งกระบวนการบริการ โดยที่มีข้อมูลจริงจาก
เซนเซอร์ หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เชื่อมต่อเข้ากับแบบจำลอง Digital Twin จะทำให้เราสามารถเห็นถึงสถานะปัจจุบัน วิเคราะห์การทำงาน ทดสอบการเปลี่ยนแปลง และจำลองเหตุการณ์ล่วงหน้าได้
การมี
Digital Twin เปรียบเสมือนการมีสมองดิจิทัล คอยช่วยวิเคราะห์ คิด และเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้กับระบบที่เราควบคุมอยู่ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งกับของจริงโดยตรงทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น หากมี
เครื่องจักร ที่เริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น Digital Twin จะแสดงให้เรารู้ว่า ถ้ายังคงทำงานในลักษณะนี้จะเกิดความเสียหายในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า เพื่อให้เราหาวิธีการป้องกัน
โครงสร้างของ Digital Twin ทำงานอย่างไร?องค์ประกอบของ Digital Twin มีหลากหลายส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เริ่มจาก Physical Object หรือสิ่งของจริงที่เราต้องการจำลอง เช่น เครื่องจักร รถยนต์
หรือระบบโลจิสติกส์ จากนั้นเป็นการสร้างแบบจำลองดิจิทัล (Virtual Model) ของสิ่งนั้นขึ้นมาอาจอยู่ในรูปของโมเดล 3D หรือโมเดลเชิงคณิตศาสตร์ที่จำลองพฤติกรรม
ข้อมูลจากเซนเซอร์หรือระบบต่าง ๆ จะถูกส่งเข้ามายังแบบจำลองนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา และยังมีระบบวิเคราะห์และคาดการณ์ที่สามารถประมวลผลข้อมูล เช่น AI, Machine Learning หรือ กฎ Logic ที่ช่วยทำนายผลลัพธ์ต่าง ๆ
สุดท้าย เมื่อระบบสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้แล้ว จะส่งข้อมูลย้อนกลับไปยังระบบควบคุมในโลกจริง หรือแจ้งเตือนผู้ใช้งาน เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ใช้ Digital Twin ใช้ทำอะไรบ้าง?Digital Twin ช่วยให้เราสามารถทดสอบไอเดียใหม่ วิเคราะห์ผลลัพธ์ล่วงหน้า และรู้ทันสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป การตัดสินใจที่เคยต้องพึ่งประสบการณ์หรือสัญชาตญาณก็สามารถเสริมด้วยข้อมูลจำลองที่แม่นยำได้ นอกจากนี้ ยังนำมาใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะในเชิงการวางแผน การเพิ่มประสิทธิภาพ และการลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน ทั้งในระดับเครื่องจักรเล็ก ๆ ไปจนถึงระบบระดับเมืองหรือองค์กร
Digital Twin ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ ?สิ่งที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด คือ คิดว่า Digital Twin จะต้องมีอุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์หน้าตาไฮเทค ต้องมีภาพเคลื่อนไหว 3D ระบบ AR/VR แต่ความจริงแล้ว Digital Twin คือ แนวคิดและกระบวนการ ที่อาจสร้างใน Cloud ใช้เพียงกราฟข้อมูลธรรมดา หรือเป็นแบบจำลองที่รันอยู่ในระบบปิดก็ได้ ขอแค่สามารถเชื่อมข้อมูล วิเคราะห์ และตอบโต้กับของจริงได้อย่างแม่นยำ โดยมีสิ่งที่สำคัญ คือ ความสามารถของระบบ นั่นเอง
ตัวอย่างของการใช้งาน Digital Twin ในโลกจริง ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต Digital Twin นำมาใช้จำลองสายการผลิต ทำให้วิศวกรสามารถทดสอบการเปลี่ยนแปลง เช่น การเพิ่มความเร็วของสายพาน หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของเครื่องจักร ก่อนที่จะลงมือทำจริง ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการทดลองอย่างมาก
ในโลกของยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า Digital Twin ช่วยติดตามแบตเตอรี่ของแต่ละคันแบบแยกรายหน่วย คาดการณ์ความเสื่อมสภาพล่วงหน้า และแนะนำเวลาที่ควรเปลี่ยนหรือบำรุงรักษา เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความเสียหายระหว่างใช้งาน
สำหรับเมืองอัจฉริยะ Digital Twin ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์และการจำลองพฤติกรรมของรถยนต์ เพื่อนำไปสู่การปรับสัญญาณไฟจราจรโดยอัตโนมัติ ลดการจราจรติดขัดและเพิ่มความปลอดภัย
ความสำคัญของ Digital Twin ไม่ได้อยู่ที่ความล้ำสมัยหรือหน้าจอกราฟิกที่สวยงาม แต่ช่วยให้เราสามารถทำนาย ทดสอบ และปรับเปลี่ยน ได้ทันก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นจริง ผ่านแบบจำลองที่เชื่อมต่อกับข้อมูลจริงแบบเรียลไทม์ เป็นระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเข้าใจโลกจริงได้ลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเข้าใจ Digital Twin อย่างถูกต้องจึงเป็นการลงทุนด้านความรู้ที่คุ้มค่า และจะมีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
ขอบคุณที่มาโดย : PISIT POOCHAROEN. MM MODERN MANUFACTURING
ขอบคุณภาพโดย : AI-generated on Freepik
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่