Walter ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลในการจัดส่งผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน

ทุกสิ่งที่ถูกใช้อยู่ในกระบวนการนั้นมีการปล่อยคาร์บอนทั้งสิ้น และคาร์บอนนั้นจะถูกคิดคำนวณลงไปในผลิตภัณฑ์ เรียกว่า ‘คาร์บอนฟุตพรินต์’ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องการส่งสินค้าออกไปขายในสหภาพยุโรปต้องหาแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต เนื่องจากมาตรการ ภาษีคาร์บอนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรปที่เรียกเก็บภาษีบนผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยคาร์บอนสูงเกินเกณฑ์
โดยมีหลากหลายแนวทางในการลดการปล่อยคาร์บอน ตั้งแต่การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนแทนฟอสซิล การเลือกใช้ เครื่องจักร ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลในกระบวนการแทนวัสดุใหม่เนื่องจากวัสดุรีไซเคิลมีการปลดปล่อยคาร์บอนที่น้อยกว่า
การปล่อยคาร์บอนสำหรับ พลาสติก นั้น ในขั้นตอนการกลั่นจากน้ำมันได้ทำเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ครั้งเป็นวัสดุใหม่ ไม่มีการทำซ้ำ ในขณะที่วัสดุที่เป็น โลหะ ในขั้นตอนการถลุงเหล็กเพื่อสร้างเป็นวัตถุดิบเหล็กก็ทำเพียงครั้งเดียว การใช้วัสดุรีไซเคิลจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้
บรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งที่จำเป็นและใช้ในทุกชิ้นงานที่มีการส่งมอบไปยังลูกค้าผู้ใช้งาน การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลก็เป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ โดยในปัจจุบันมีตัวเลือกวัสดุที่สามารถปกป้องสินค้าในระหว่างขนส่งและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเครื่องจักรในโรงงานสามารถรองรับวัสดุรีไซเคิลได้หรือไม่ ซึ่งเครื่องจักรรุ่นใหม่ ๆ ก็มีการออกแบบเพื่อรองรับการผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลได้
Walter บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักร ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลมากถึง 95% โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มการหมุนเวียนให้มากกว่า 90% ภายในปี 2030 บรรจุภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิลจะช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้ถึง 60 ตันเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2022 และยังมีความแข็งแรงทนทานในการปกป้องผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
บรรจุภัณฑ์ PCR (Post-Consumer Recycled) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจาก Walter (ที่มา: Walter GB) PCR (Post-Consumer Recycled) วัสดุที่รีไซเคิลได้ 100% เป็นเพียง 1 ใน 4 เป้าหมายความยั่งยืนที่ Walter มุ่งมั่นจะทำในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า พร้อมกับจะลดการปล่อย CO2 ลงครึ่งหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อผู้คน และจะดำเนินการอย่างโปร่งใสและมีจริยธรรม หรือ ทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ
“เราตั้งเป้าหมายความยั่งยืนไว้ว่าจะต้องทำให้สำเร็จภายในปี 2030 แต่เป้าหมายหลักของเรา คือ
Climate Neutral ภายในปี 2050 เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ PCR มีส่วนสำคัญในเรื่องสิ่งนี้” Gerhard Schüßler หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนบริษัท Walter กล่าว
Walter ยืนยันว่า การผลิตพลาสติกรีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์ PCR ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียวของพลาสติกใหม่ เท่ากับการลดการปล่อยคาร์บอนลง 60 ตันเมื่อเทียบกับปี 2022 รวมถึงใช้วัตถุดิบฟอสซิลและใช้พลังงานน้อยลง
บรรจุภัณฑ์ PCR นอกจากคุณสมบัติด้านความยั่งยืนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก ยังมีความทนทานเหมือนพลาสติกใหม่ ปกป้องผลิตภัณฑ์จากการกัดกร่อนและความเสียหายได้เป็นอย่างดี จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ Walter มีการเปลี่ยนมาใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ PCR ในปี 2023 และตั้งเป้าใช้เป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์มาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Walter มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ในปี 2024
ขอบคุณที่มาโดย : Kasiwoot T. MODERN MANUFACTURING , ETMMขอบคุณภาพโดย : Walter GBอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่