A comprehensive guide to manufacturers, distributors, and suppliers providing machinery, industrial equipment and automation system in Thailand.

ARTICLES & ADVERTORIALS

    

Kaizen แนวคิดบริหารโรงงานให้มีประสิทธิภาพสไตล์ญี่ปุ่น





ในยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก จึงไม่แปลกเลยที่ผู้ประกอบการต่าง ๆ มองหาแนวคิดในการทำงานที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยลดต้นทุนการผลิตและยกระดับให้มีคุณภาพการผลิตที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเดียวกันได้

การนำเอาแนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในโรงงานอาจเจอกับความท้าทายหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงจากพนักงาน ต้นทุนและทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการขาดความรู้และความเข้าใจในแนวคิดเหล่านั้น

Kaizen แนวคิดบริหารโรงงานให้มีประสิทธิภาพสไตล์ญี่ปุ่น


‘Kaizen’ คือ แนวคิดของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสไตล์ญี่ปุ่น เป็นวิธีการบริหารจัดการโรงงานให้มีประสิทธิผลที่สามารถทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง โดยอยู่บนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกสิ่งสามารถปรับปรุงได้ และไม่มีสิ่งใดจะคงสภาพที่เป็นอยู่ไปได้ตลอดเวลา


Kaizen แนวคิดของการเปลี่ยนแปลง

คำว่า Kaizen นั้นมาจากคำว่า ‘‘Kai’‘ (改) ซึ่งแปลว่า การเปลี่ยนแปลงหรือการแก้ไข และคำว่า ‘‘Zen’‘ (善) แปลว่า ดีขึ้นหรือดีงาม รวมกันออกมาเป็นคำว่า ‘‘Kaizen’‘ ที่แปลว่า ‘'การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น'‘ ซึ่งแนวคิดแบบ Kaizen นั้นเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมากว่า 1,300 ปีแล้วในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคสมัยเอโดะ (ปีค.ศ. 1603 – 1867)

หัวใจสำคัญของการทำงานแบบ Kaizen ในโรงงาน คือ ‘การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง’ โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดของเสียในกระบวนการผลิตผ่านการทำงานร่วมกันของพนักงานทุกคนในองค์กร เปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้น้อยลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิดความสะดวกสบายและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานให้สูงขึ้น


ข้อดีของแนวคิด Kaizen

เมื่อเทียบกับแนวทางการปรับปรุงคุณภาพอื่น ๆ การนำแนวคิด Kaizen มาใช้ในโรงงาน คือ การไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่และเห็นผลได้จากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกระบวนการทำงาน สิ่งเหล่านั้นมาจากการเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนตั้งแต่นายช่าง วิศวกร ไปจนถึงผู้จัดการและผู้บริหาร ได้มีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของทุกคนในองค์กร


ประโยชน์ของการนำแนวคิดแบบ Kaizen มาปรับใช้ให้ในโรงงานให้เกิดผลสำเร็จ ได้แก่

เพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน
  • ลดของเสียในสายการผลิต
  • ยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  • ลดต้นทุนและประหยัดเวลาในการทำงาน
  • ปรับปรุงความปลอดภัยในโรงงาน
  • เพิ่มผลกำไรและความพึงพอใจของลูกค้า


    สำหรับโรงงานที่อยากเริ่มใช้แนวคิด Kaizen นั้น หลักการสำคัญที่ควรนำไปใช้ ได้แก่ การเลิก ลด เปลี่ยน (Stop, Reduce, Change) สิ่งที่ทำให้โรงงานและสายการผลิตของคุณต้องเสียประสิทธิภาพในการทำงานไป

  • เลิก คือ การเลิกหรือการตัดขั้นตอนการทำงานแบบเดิม ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นออกเพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่สิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างเวลา กำลังคน และวัตถุดิบ เช่น การลดขั้นตอนการผลิตจาก 5 ลงเหลือ 3 ขั้นตอน แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีขึ้นแทน

  • ลด เป็นการลดความซ้ำซ้อนหรือความยุ่งยากในการทำงานที่ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ และลดกิจกรรมที่ใช้ทรัพยากรมากเกินไปออกจากการทำงาน เช่น ลดเวลาประกอบชิ้นงานด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติแทนการใช้แรงงานมนุษย์

  • เปลี่ยน หมายถึง การปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น เปลี่ยนการจัดเก็บวัตถุดิบจากการใช้กล่องพลาสติกมาเป็นชั้นวางที่มีการจัดเรียงเป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและหยิบใช้งาน

    นอกจากนี้ Kaizen ยังเกิดขึ้นได้จากการใช้กลยุทธ์ 3MU (Muda / Mura / Muri) ที่มุ่งเน้นที่การลดต้นทุน กำจัดความสูญเปล่าในโรงงาน และสามารถเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก่อนจะปรับเปลี่ยนเข้าสู่แนวคิด Kaizen รวมถึงการนำเอาหลักการอื่น ๆ อย่าง 5S และ 4M เข้ามาเสริมก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้โรงงานสามารถนำเอาแนวคิด Kaizen มาใช้ให้เกิดผลได้สำเร็จจริง

    โรงงานที่นำเอาแนวคิด Kaizen มาใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทั้งบุคลากรและวิธีการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ เพิ่มคุณค่าให้กับทั้งองค์กรและตัวพนักงาน อีกทั้งยังช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน



    ขอบคุณที่มาโดย : Jirapat R. MODERN MANUFACTURING

    ขอบคุณภาพโดย : Rawpixel.com on Freepik

    อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่