JIDOKA ระบบป้องกันความผิดพลาดและลดความสูญเสียจากการผลิต
โรงงานที่ต้องผลิตวัตถุดิบ วัสดุ หรือสินค้าต่าง ๆ หากในการผลิตไม่ได้มี 'ระบบ' หรือ 'กระบวนการ' เข้ามาช่วยจัดการ โรงงานคงไม่สามารถควบคุมและคาดการณ์ต้นทุน-ผลลัพธ์จากการผลิตได้เลย
วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิตเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีหลากหลายชนิด ในกรณีที่ใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ในการผลิตแล้วเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นมา เครื่องจักรหรืออุปกรณ์นั้นสามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติได้ด้วยตัวเอง และหยุดทำงานได้เองอัตโนมัติ นั่นคือ ‘จิโดกะ’
JIDOKA หรือ จิโดกะ คือ เครื่องมือหรือเครื่องจักรสำหรับป้องกันความผิดพลาดในการทำงานที่อาจจะทำให้สินค้าเสียหาย หากเกิดการผิดพลาดขึ้นจะมีระบบอัตโนมัติเพื่อหยุดการผลิตและการส่งสินค้าที่มีความเสียหายหรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ไปยังกระบวนการต่อไป
อาจกล่าวอย่างสั้น ๆ ได้ว่า
ระบบ JIDOKA คือ กระบวนการควบคุมตัวเองโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ที่อาจเกิดขึ้นในสายการผลิตหรือในเครื่องจักร
โดยทั่วไป Jidoka ประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจจับ (Sensor) และหากตรวจพบปัญหาความผิดปกติขึ้นก็จะดำเนินการหยุดสายการผลิตทันที เช่น การใช้ Limit Switch เพื่อหยุดการทำงานของระบบเมื่อตรวจพบปัญหา ซึ่งผู้ปฏิบัติงานสามารถหยุดสายการผลิตได้ทันทีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปยังกระบวนการถัดไป ดังนั้น เป้าหมาย Jidoka ประกอบด้วย การประกันคุณภาพผลิตผลจากกระบวนการผลิต ป้องกันปัญหาความขัดข้องจากเครื่องจักรและเกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การนำ Jidoka ไปใช้เพื่อแก้ปัญหาสายการผลิตจะเกิดประสิทธิผลเมื่อผู้ควบคุมงานและพนักงานสายการผลิตมีทักษะและประสบการณ์อย่างเพียงพอ
เมื่อสายการผลิตเกิดปัญหา เครื่องมือที่จะทำให้พนักงานและเครื่องจักรหยุดการทำงานได้เอง มีดังนี้
1. Andon เป็นป้ายไฟขนาดใหญ่ เพื่อแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบเมื่อเกิดปัญหา
2. Pokayoke เป็นเครื่องมือในการป้องกันความผิดพลาด ต้องดำเนินการผลิตด้วยกระบวนการที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะสามารถผ่านไปสู่กระบวนการต่อไปได้
Jidoka หรือ จิโดกะ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า
Automation หรือ การควบคุมอัตโนมัติ เป็นวิธีที่
TOYOTA ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดความผิดพลาดและความสูญเสียจากกระบวนการผลิต ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยหยุดการผลิตทันทีเมื่อเกิดความผิดพลาดในการผลิต เพื่อแก้ไขก่อนที่จะดำเนินการผลิตต่อไป โดยจะใช้สัญญาณไฟ Andon ส่งสัญญาณให้หยุดกระบวนการผลิต และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไข
ข้อดีของระบบ Jidoka นั้นไม่เพียงแต่จะช่วยให้ไม่มีสินค้าเสียหายหรือไม่ได้มาตรฐานเกิดขึ้นเท่านั้น แต่จะช่วยให้การไหลของวัสดุในระบบ JIT
(Just In Time – ผลิตสินค้าเมื่อมีความต้องการจากลูกค้าเท่านั้น ส่งมอบทันที และไม่เก็บสินค้าเอาไว้) ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่งจะช่วยลดเวลาการทำงาน และป้องกันการเกิดของเสีย (Waste) ในระบบ เช่น การเสียเวลาตรวจสอบสินค้า การรอคอยการขนส่ง และสินค้าเสียหายหรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหลักการ 3 ประการที่สำคัญของ Jidoka คือ การแยกการทำงานของพนักงานกับเครื่องจักรออกจากกัน การพัฒนาอุปกรณ์หรือเครื่องมือเพื่อป้องกันการทำให้สินค้าเสียหายหรือไม่ได้คุณภาพ และการประยุกต์ใช้ Jidoka กับกระบวนการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ
ระบบการผลิตมีหลากหลากประเภทขึ้นอยู่กับผลผลิตและปริมาณ โรงงานและธุรกิจควรเลือกใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ให้เหมาะสม ปรับใช้ระบบเพื่อให้สามารถควบคุมงาน จัดการ และบริหารการผลิตได้ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนลงได้ ซึ่งระบบ Jidoka ตอบโจทย์ดีที่สุดในเรื่องของการลดความสูญเสียจากกระบวนการผลิต และป้องกันความเสียหายหรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐานก่อนถึงมือลูกค้า
ขอบคุณที่มาโดย : ดร.นันทิ สุทธิการนฤนัย, Soft Bank Thai K.Pair, GreedisGoods ERP CRAFTER Logistics Cafe ThaiDisplay.com ขอบคุณภาพโดย Production process vector created by upklyak - www.freepik.com บทความน่าสนใจ >> การวัดค่า IN-PROCESS เสริมการทำงานแบบอัตโนมัติและลดของเสียจากการผลิตอ่านบทความเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่