ปกป้องความสึกกร่อนของอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ด้วยการเคลือบ PTFE
อุปกรณ์การแพทย์นั้นเป็นเครื่องมือที่ต้องใส่ใจแม้รายละเอียดที่เล็กน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานและการรักษาเครื่องมือเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด ซึ่งเทคนิควิธีการเคลือบ PTFE สามารถป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ได้
ปัญหาการสึกกร่อนของเครื่องมืออาจไม่ได้เกิดจากการใช้งานเพียงเท่านั้น แต่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการผลิตและการประกอบ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่คับแน่นยิ่งอาจทำให้กระบวนการมีความยากลำบากและล่าช้าลงไปอีก การใช้
สารหล่อลื่นหรือสารเคลือบ จึงสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมีสารหล่อลื่นสำหรับการแพทย์อยู่มากที่ช่วยลดการสึกหรอหรือการเสียดทานที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันซิลิโคนหรือจารบี ซึ่งสารหล่อลื่นแบบแห้งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะสามารถลดปัญหาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการเสียดทาน และการติดหนึบ ซึ่งมักจะพบเจอในชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว เช่น การสไลด์ การเฉือน หรือการหมุนเป็นต้น กลไกการเคลื่อนไหวเหล่านี้มักเจอในอุปกรณ์การแพทย์แบบใช้แล้วทิ้ง เช่น สายสวน อุปกรณ์สำหรับตัด เย็บ หลอดไฮโป
สารหล่อลื่นแบบแห้งส่วนใหญ่นั้นใช้
Polytetrafluoethylene (PTFE) ซึ่งจะเกิดการลอยตัวเมื่อเจอกับของเหลวบริสุทธิ์ไม่ติดไฟ เหมาะกับการใช้งานในอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูง มีกลไกกระบวนการประกอบในปริมาณมาก มักใช้ในพลาสติกหรือส่วนประกอบโลหะ ทั้งยังช่วยให้ชิ้นส่วนทนทานต่อน้ำ น้ำมัน สารเคมี การขีดข่วน และอุณหภูมิที่สูงได้
เมื่อทำการเคลือบผิวด้วย
สารเคมี เหล่านี้บาง ๆ บนวัตถุ ของเหลวที่ทำหน้าที่เป็นพาหะของสารหล่อลื่นเหล่านี้จะระเหยอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงการเคลือบแห้งบนชิ้นส่วนที่มีความเรียบเนียน ของเหลวที่เป็นพาหะนำส่งสารหล่อลื่นต้องมีความหนืดต่ำ เมื่อเปียกและแทรกลงไปในร่องต่าง ๆ บนพื้นผิวที่ต้องการ จะทำให้พื้นผิวถูกเคลือบอย่างสม่ำเสมอโดยไม่เหลือคราบ การเกาะตัว หรือหยดไหลต่าง ๆ ที่ถูกทำให้จัดเป็น Unique Device Identification (UDI) บนเครื่องมือได้ ชิ้นส่วนที่ใช้การหล่อลื่นแบบแห้ง โดยทั่วไปจะสามารถลดแรงกดที่เกิดขึ้นได้ 25 – 30% ซึ่งทำให้ชิ้นส่วนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเคลือบสารหล่อลื่นที่นิยมใช้งานนั้นแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. การจุ่ม – วิธีการนี้นิยมใช้ในการผลิตจำนวนมาก สามารถใช้ได้หลากหลายรูปทรงและขนาด โดยสามารถจุ่มครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้ หากต้องการปรับระดับของการเคลือบก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นอนุภาค PTFE ได้
2. การทาเคลือบ – การเช็ดหรือทาเคลือบนั้นมักใช้ในการผลิตจำนวนน้อยหรือปริมาณกลาง ๆ เพราะวิธีนี้มักใช้กับวัสดุที่มีพื้นผิวต่อเนื่องยาว เช่น ไม้เท้า ท่อ แผ่นเหล็กรองผู้ป่วย
3. การพ่นสเปรย์ – มักใช้สเปรย์พ่นมือหรือหัวพ่นอัตโนมัติ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเคลือบบาง ๆ ทำให้พื้นผิวแห้งได้ระหว่างการใช้งาน และการเคลือบซ้ำเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็จะให้ผลดีกว่าการเคลือบหนา ๆ ครั้งเดียว
สารหล่อลื่นแบบแห้งที่ใช้กับอุปกรณ์การแพทย์ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้1. มาตรฐาน ISO 10993 – สารหล่อลื่นแบบแห้งเหล่านี้สามารถใช้งานในการผลิตและการบริกอบได้เป็นปกติ แต่มาตรฐาน ISO 10993 นั้นมีไว้สำหรับสารหล่อลื่นเกรดการแพทย์ ซึ่งทำให้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
2. สะอาด และ ใช้งานง่าย – สารหล่อลื่นอย่างจารบีหรือน้ำมันอาจจะมีราคาแพง และใช้ยาก อาจติดเลอะกับบรรจุภัณฑ์ได้ ทำให้มีปัญหาเรื่องความสะอาดตามมา สารหล่อลื่นแบบแห้งจะให้ความสะอาดที่มากกว่า และใช้งานได้ง่าย
3. ไม่ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย – ของเหลวที่ไม่ใช่น้ำจะช่วยป้องกันให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโต รวมถึงการปนเปื้อนทางชีวภาพที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนของอุปกรณ์
4. ความหลากหลายของพื้นผิววัสดุ – สารหล่อลื่นที่มีพื้นฐานจาก PTFE นั้นเข้ากันได้กับวัสดุหลากหลายชนิด ปลอดภัยในการใช้กับโลหะ แก้ว พลาสติก และชิ้นส่วนเซรามิก
การใช้งานอุปกรณ์การแพทย์ในการบำบัดรักษานั้น หากเครื่องมือไม่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ผลกระทบย่อมตกแก่ผู้ป่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สารหล่อลื่นแบบแห้งจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ป้องกันและรักษาเครื่องมือเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และมีความปลอดภัยในการใช้งาน
ขอบคุณที่มาโดย Machinedesign.com , MODERN MANUFACTURINGขอบคุณภาพโดย jannoon028 จาก Freepikอ่านบทความเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่
