A comprehensive guide to manufacturers, distributors, and suppliers providing machinery, industrial equipment and automation system in Thailand.

ADVERTORIALS

    

วิธีลดปัญหาเสียงดังจากโรงงานอุตสาหกรรม





โรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกประเภท ล้วนต้องใช้เครื่องจักรซึ่งมักก่อให้เกิดเสียงดังรบกวน การหาวิธีควบคุมเสียงเพื่อมิให้ส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานในโรงงาน รวมถึงผู้คนในพื้นที่ใกล้เคียง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงสำหรับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม

oPuFmz.jpg




องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดว่า เสียงที่มีความดังในระดับ 85 เดซิเบลขึ้นไปนั้นอันตรายต่อร่างกายคน และเป็นระดับเสียงที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภทที่ใช้เครื่องจักร ดังนั้น ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมจึงควรทำความเข้าใจเรื่องของการลดและป้องกันเสียงดังด้วยกัน รวมถึงการออกแบบห้องเก็บเสียงในโรงงาน เพื่อใช้ในการควบคุมระดับเสียงจากโรงงานให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและเป็นมิตรกับพนักงาน รวมถึงผู้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงด้วย

แนวทางรับมือปัญหาเรื่องเสียงดังจากโรงงานอุตสาหกรรมนั้น อาจมีวิธีควบคุมโดยพิจารณา 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ตัวแหล่งกำเนิดเสียง ระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง และการป้องกันของตัวผู้รับเสียงเอง

1. ควบคุมปริมาณเสียงจากตัวแหล่งกำเนิดเสียง ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้เครื่องมือรุ่นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งทำงานได้โดยไม่ส่งเสียงดังเกินมาตรฐาน การออกแบบเครื่องจักร อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยลดเสียง รวมถึง ตรวจสอบกระบวนการผลิตอย่างละเอียด ว่ามีขั้นตอนใดที่ก่อให้เกิดเสียงดังบ้าง เผื่อจะได้ทำการแก้ไขหรือหาวิธีการอื่นทดแทนในขั้นตอนการผลิตนั้นๆ เพื่อให้เสียงลดลง

นอกเหนือจากตัวเครื่องจักรและกระบวนการผลิตแล้ว อาจหาวัสดุป้องกันเสียงมาปิดล้อมเพิ่ม หรือออกแบบห้องเก็บเสียงในโรงงานให้ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยลดเสียงที่ลอดออกจากห้องเครื่องจักร รวมถึงติดตั้งวัสดุซับเสียงที่ผนังภายในของห้อง นอกจากนี้ควรตรวจสอบตำแหน่งของเครื่องจักรให้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มั่นคง และตรวจสอบอุปกรณ์รองฐานเครื่องเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร เช่น สปริง หรือยางรอง เป็นต้น หากเครื่องจักรไม่ได้ตั้งอยู่บนอุปกรณ์ป้องกันการสั่นสะเทือนที่เหมาะสมแล้ว แรงสั่นสะเทือนจากการทำงานจะยิ่งส่งผลให้เกิดเสียงดังมากขึ้น และยังเป็นอันตรายต่อบุคลากรรวมถึงบุคคลในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย

สิ่งสำคัญ คือ การบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ คอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้ไม่ฝืด เพื่อลดเสียงรบกวนจากการเสียดสีของเครื่องจักร รวมไปถึงเลือกใช้วัสดุที่ได้คุณภาพมาตรฐานในการสร้างห้องเก็บเสียงในโรงงาน

2. ระยะจากแหล่งกำเนิดเสียง ยิ่งไกลมากมากเสียงจะยิ่งเบาลง ดังนั้น การจัดวางตำแหน่งของเครื่องจักรหรือแหล่งกำเนิดเสียงให้ห่างจากผู้รับเสียงมากที่สุด จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดเสียงดังได้ โดยหลักแล้วระดับของเสียงจะลดลง 6 เดซิเบล ของทุกๆ ระยะทางที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เช่น เครื่องจักรห่างจากชุมชน 100 เมตร ส่งเสียงในระดับ 120 เดซิเบล หากขยับเครื่องจักรถอยออกห่างเป็น 200 เมตร ระดับเสียงจะลดลงไปอยู่ที่ 114 เดซิเบล เป็นต้น

ทั้งนี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเสียงได้ด้วยการจัดทำห้องเก็บเสียงในโรงงาน หรือ กำแพงกั้น รวมถึง การใช้วัสดุป้องกันเสียงร่วมกับวัสดุดูดซับเสียงบริเวณที่เสียงเดินทางผ่าน สามารถช่วยกรองและลดระดับความดังของเสียงลงได้ นอกจากนี้ภายในบริเวณพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ระหว่างห้องเครื่องจักรกับผู้รับเสียง หากสามารถ ปลูกต้นไม้ยืนต้นที่มีใบดกขึ้นปกคลุม ก็จะช่วยลดระดับของเสียงได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดมลพิษบางส่วนในพื้นที่โรงงานไปด้วยพร้อมกัน

3. ป้องกันที่ตัวของผู้รับเสียงเอง อย่างการเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันหูเพื่อลดระดับความดังของเสียง โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้

  • ที่ครอบหู หรือ Ear Muffs ซึ่งจะปิดหูและกระดูกรอบ ๆ ใบหูทั้งหมด มีขนาดใหญ่ ไม่ทำให้สูญหายง่าย ใส่และถอดสะดวก ช่วยลดระดับความดังของเสียงได้มากถึง 20 - 40 เดซิเบล

  • ปลั๊กอุดหู หรือ Ear Plugs ทำจากยางหรือพลาสติก นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากราคาต่อคู่ไม่แพง สะดวกต่อการพกพา ใช้สอดเข้าไปอุดในหู ป้องกันเสียงได้น้อยกว่า คือ สามารถลดระดับความดังของเสียงได้ประมาณ 10 - 20 เดซิเบล นอกจากนี้ ควรมีการควบคุมระยะเวลาในการทำงานที่ต้องรับเสียงให้ไม่นานเกินไปจนเกิดอันตราย

    การเลือกใช้ที่อุดหู หรือ ที่ครอบหู ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนักในส่วนของความสามารถในการลดเสียง ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายของผู้ใช้ ความเหมาะสม และไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน

    การควบคุมเสียงจากโรงงานให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายต่อพนักงานในโรงงานและชุมชนผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง นับเป็นความรับผิดชอบที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ว่าจะอุตสาหกรรมใดก็แล้วแต่ควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินกิจการ ที่เป็นมิตรกับทั้งคนภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน ที่สำคัญต้องเลือกใช้วัสดุในการทำห้องเก็บเสียงภายในโรงงานที่ได้คุณภาพ และใช้เครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเสียงที่เป็นผลเสีย


    ขอบคุณที่มาโดย SCG , OFFICEMATE